วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552
(((Christmas at KMUTT)))

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552
.....Dance with my father.....
LNG 16/12/09

..Dance with my father..
ซึ่งเป็นเพลงของ Luther Vandross
โดยอาจารย์ให้ฟังเพลงจากการประกวด x-factor
แล้วให้นำคำมาเติมในช่องว่างที่ได้จากการฟังเพลง
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ฟังยากมากเลย
กว่าจะได้คำมาใส่ในช่องว่างได้ก็ต้องฟังกันอยู่หลายรอบ
จนสุดท้ายอาจารย์ก็ต้องเฉลย
ฉันคิดว่า เป็นการฝึกการฟังที่ดีมากเลยนะ
จากนั้นอาจารย์ก็เอาเนื้อเพลงมาให้ดู
และอธิบายเนื้อเพลงให้ฟัง
ทำให้รู้ว่าสาเหตุที่กรรมการในการประกวด x-factor
นั้นร้องไห้ หลังจากที่ได้ฟัง Joe McElderry ร้องเพลง
เพราะเนื้อเพลงได้กล่าวถึงพ่อ ซึ่งมีความหมายดีมากเลยสำหรับเพลงนี้
ฟังเพลงแล้วก้รู้สึกขนลุกกันเลยทีเดียว
แบบว่า คิดถึง พ่อกับแม่ จังเลย
อยากกลับบ้านแล้วนะ
หลังจากที่ฟังเพลงไปแล้ว ก็มี quiz การใช้ PREPOSITION
ให้ทำ quiz เป็นคู่ ซึ่งก็ยากน่าดูเลยทีเดียว
เมื่อ quiz เสร็จก็มีการ present เรื่อง Adjective และ Adverbs
ซึ่งเพื่อนที่ออกไปpresent ก็จะมีแบบฝึกให้ทำ ก็สนุกดี
โอ๊ะโอ ลืมไปเลย วันนี้มีนักศึกษาจาก ม.ธรรมศาสตร์มานั่งเรียนด้วย
สงสัยจังเลย เขามาทำอะไรอ่ะ
ตอนนี้ไปก่อนดีกว่า อ่านหนังสือกันดีกว่านะ สอบเคมีอีกแล้ว
สู้ๆ Get A อุ้ยวันนี้ไปไหว้พระจอมฯมาด้วย
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552
...LNG 102....

ก็เลยแวะเข้ามาบรรยายอะไรซักหน่อย
ตอนนี้ก็เรียน LNG 102 มาครึ่งเทอมแระ
เรียนกับ อ.อธิปัตย์ ตอนแรกก็กลัวๆนะ ว่า อ.จะดุไหม
จะโหดเหมือนกลุ่มอื่นรึป่าว แต่ก็ไม่นะ ในความรู้สึก
แถมยังเอาคลิปที่ประกวด x-factor มาให้ดูด้วย
มันก้เหมือนการประกวด the star ของประเทศเราแหละ
มีการขึ้นไปแสดงบนเวทีในแต่ละสัปดาห์ แล้วให้กรรมการ
คอมเม้นเกี่ยวกับการแสดงของแต่ละคน เมื่อกรรมการคอมเม้น พวกเราในคลาสก็จะตั้งใจฟังกันมาก แบบว่า ลุ้นแทนอ่ะ
คนประกวดเองคงตื่นเต้นเหมือนกัน ตอนฟังกรรมการคอมเม้นก็ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็เดาๆเอาอ่ะ สนุกดี ฝึกการฟังไปด้วย
สนุกดี ได้คำศัพท์ใหม่ๆก็เยอะ ลืมไปก็เยอะ ฮ่าๆ แต่ที่น่าตื่นเต้น อ.กำลังจะมี quiz พรุ่งนี้แล้วอ่ะ อ่านก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่
แต่ก็ต้องอ่านต่อไป แหะๆ สาธุ ขอให้ข้อสอบไม่ยากนะ
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552
....โดนทิ้ง.....
.........อ่านแล้วรู้สึกผิด.........

ตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รออยู่บีทีเอสหมอชิต
ตัดสินใจรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียงกันอยู่
โดยไม่มองว่ารถคันนั้นมีสภาพยังไง
เข้ามานั่งแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นรถแท็กซี่รุ่นเก่า
(คันเล็ก แอร์ไม่เย็น แล้วก็จะมืดๆหน่อยอ่ะค่ะ
คือมองจากข้างนอกจะเห็นข้างในไม่ค่อยชัด)
ตอนนั้นก็คิดแค่ว่า เออ แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ถึง ร้อนหน่อย ไม่เป็นไร นั่งไปได้สักพัก รถติด
คุณลุงคนขับรถก็หันมาถามประมาณว่ามีแบงค์ย่อยรึเปล่า ลุงไม่มีเงินทอน
"นี่เป็นรอบแรกของวันนี้เลย" เราเห็นว่าตอนนั้นมันจะสี่โมงเย็นแล้ว
แต่ลุงบอกว่าเป็นเที่ยวแรกของวันนี้ ก็เลยถามว่า
"ลุงเข้ากะบ่ายหรือคะ?"
คุณลุงตอบกลับว่า "ลุงขับมาตั้งแต่ตีสี่แล้ว นี่รถของลุงเอง
วนไปวนมาอยู่หลายรอบแล้ว แต่ไม่มีลูกค้าเลย"
"อ้าว ทำไมล่ะคะลุง" ตอนนั้นก็ชวนคุณลุงคุยแบบไม่ได้ติดใจอะไร ถามไปเรื่อย
"รถลุงเก่า คนเค้าก็ไม่อยากนั่ง แต่ลุงเข้าใจนะ มันก็เป็นเงินของเค้า
รถเก่า รถใหม่ ค่าโดยสารมันเท่ากัน เป็นลุงลุงก็อยากได้ที่มันดีๆเหมือนกัน
เด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าก็ชอบรถที่มีสีๆกัน"
น้ำเสียงคุณลุงตอนนั้น เป็นน้ำเสียงเหมือนจะขำๆ
แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าจะประชดประชันนะคะ
แล้วลุงก็เปลี่ยนเรื่อง ถามว่า "รถไฟฟ้านี่ เค้าคิดเงินกันยังไง"
ก็เลยอธิบายเรื่องราคาให้ลุงฟัง แล้วลุงก็ถามว่าทำยังไง
ถ้าทำไม่เป็นจะมีใครช่วยไหม "ลูกชายลุงมันอยากจะลองนั่ง
แต่ลุงก็ทำไม่เป็น ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง
ไม่กี่วันจะถึงวันเกิดมันแล้ว ลุงสัญญาว่าจะพามันมานั่งดูสักรอบ
คงจะชอบนะหนู ลุงเคยพามันมาดู แต่วันนั้นไม่มีเงินจะให้นั่ง"
สมัยนั้น บีทีเอส สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้วเกือบสามปี
น้ำเสียงตอนคุณลุงเล่า ฟังดูมีความสุขนะคะ คุณลุงยิ้มให้เราทางกระจก
คำพูดของคุณลุง ทำให้เราตื้อขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ได้แต่พยักหน้าแล้วก็ยิ้มตอบ
ทั้งสองเรื่องที่ลุงพูดมา เรื่องรถแท็กซี่เก่าของลุง
เราฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ลุงไป เพราะเราเองก็รู้ตัวดีอยู่ว่า เป็นหนึ่งใน
"เด็กๆเดี๋ยวนี้" ที่มักจะเลี่ยงนั่งรถเก่าๆ และมักจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมง
เพื่อรอรถแท็กซี่ใหม่ๆผ่านมา เรารู้ดีว่าแม้แต่การนั่งรถของคุณลุงในครั้งนี้
มันก็เป็นแค่ความบังเอิญ ถ้าฝนไม่ตก ถ้าเราไม่รีบ เราก็คงไม่เรียกรถของคุณลุง
หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เราสามารถเลือกในสิ่งที่เราต้องการได้
แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำมันมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย เราก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร
(แท็กซี่ใหม่ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะในจำนวนนั้นก็มีคนที่ลำบาก หาเช้ากินค่ำเช่นกัน) ?
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า เรื่องของลูกชายคุณลุง ทำให้เรากลับมามองตัวเอง
เราใช้รถไฟฟ้าไปไหนมาไหนตลอด บางครั้งไม่มีอะไรทำก็ชอบไปนั่งเล่นด้วยซ้ำ
จะใช้ทีก็แทบจะไม่ต้องคิดเลย แต่สำหรับลูกชายคุณลุง มันคือ "ของขวัญวันเกิด"
เป็นความต้องการที่แทบจะต้องใช้คำว่า "ความฝัน" ด้วยซ้ำ ....
เงิน "แค่" สิบห้าบาทของเรา กับ เงิน "ตั้ง" สิบห้าบาท ของเค้า
หดหู่ค่ะ วันนั้นลงจากรถคุณลุงมาก็เล่าให้เพื่อนฟัง
คิดถึงตัวเองที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทั้งที่หาเงินเองไม่ได้
คิดถึงหลายๆอย่างในชีวิต ที่ได้มาง่ายๆ
โดยไม่ต้องดิ้นรน ?